วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ของขวัญล้ำค่าที่สุด ในชีวิตมนุษย์

ของขวัญล้ำค่าที่สุด ในชีวิตมนุษย์ ชายคนหนึ่งเคยลงโทษลูกสาววัย 5 ขวบของเขา เพราะนำเงินไปซื้อกระดาษห่อของขวัญสีทองม้วนหนึ่งซึ่งมีราคาแพงในขณะที่การเงินที่บ้านฝืดเคือง และเค้าก็อารมณ์เสียอีกครั้งเมื่อลูกสาวของเขานำกระดาษสีทองราคาแพงนั้น มาห่อกล่องของขวัญเพียงเพื่อตกแต่งไว้ใต้ต้นคริสต์มาส แต่กระนั้น...ลูกสาวตัวน้อยก็ได้มอบกล่องของขวัญนั้นให้พ่อของเธอในเช้าวันรุ่งขึ้น และพูดว่า "นี่สำหรับพ่อค่ะ" พ่อของเธอรู้สึกกระอักกระอ่วนกับอาการที่ได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้ แต่แล้วความโกรธก็ได้พุ่งขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาพบว่ามันเป็นเพียงกล่องเปล่า เขาพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดว่า "ลูกไม่รู้จริงๆ อย่างนั้นหรือว่าการจะให้ของขวัญใคร มันจะต้องมีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญด้วย"เด็กน้อยมองไปที่พ่อของเธอด้วยน้ำตา และพูดว่า "โอ...พ่อจ๋า มันไม่ใช่กล่องเปล่าเลย หนูเป่าจูบเข้าไปจนเต็ม" พ่อเริ่มสะอึก และตัวชาด้วยความเสียใจ เขาทรุดตัวลงแล้วโอบกอดลูกสาวไว้แน่น เขาขอให้ลูกสาวยกโทษให้กับท่าทางโกรธเกรี้ยวเกินเหตุของเขา
ต่อมาไม่นานอุบัติเหตุก็ได้คร่าชีวิตลูกสาวของชายคนนั้นไป ส่วนเขาก็ยังเก็บกล่องของขวัญสีทองล้ำค่านั้นไว้ข้างเตียงตลอดชีวิตของเขาเลยทีเดียว และเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกท้อแท้ใจหรือต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากเย็นแสนเข็น เขาจะเปิดกล่องใบนี้ เพื่อหยิบจูบในจินตนาการขึ้นมาหนึ่งจูบ แล้วรำลึกถึงความรักของลูกน้อยที่ได้ใส่จูบนั้นไว้ให้เขา
ในความเป็นจริง ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง พวกเราทุกคนล้วนได้รับกล่องของขวัญสีทองซึ่งบรรจุด้วยความรักที่ปราศจากเงื่อนไข และรอยจูบจากลูกๆ ครอบครัว เพื่อน และพระเจ้า ไม่มีสมบัติใดล้ำค่าไปกว่านี้อีกแล้ว
ฉันขอขอบคุณสำหรับ....
สำหรับ....สามีที่นอนกรนทั้งคืน เพราะนั่นหมายถึงเขากำลังหลับอยู่ที่บ้านกับฉัน ไม่ใช่กับผู้หญิงอื่น
สำหรับ....ลูกสาววัยรุ่นที่กำลังบ่นเรื่องล้างจานอยู่ เพราะนั่นหมายถึงเธออยู่บ้าน ไม่ใช่ที่ถนน
สำหรับ....ภาษีที่ต้องเสีย เพราะนั่นหมายถึงฉันมีงานทำ
สำหรับ....ข้าวของต่างๆ ที่ต้องคอยเก็บหลังงานปาร์ตี้ เพราะนั่นหมายถึงฉันถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนฝูง
สำหรับ....เสื้อผ้าที่พอดีจนเกือบจะคับเกินไป เพราะนั่นหมายถึงฉันมีกิน
สำหรับ....เงาที่คอยมองดูฉันทำงาน เพราะนั่นหมายถึงกำลังได้รับแสงแดด
สำหรับ....พื้นที่ต้องคอยขัดถู และหน้าต่างที่ต้องทำความสะอาด เพราะนั่นหมายถึงถึงฉันมีบ้านสวย
สำหรับ....คำบ่นต่างๆ ที่มีต่อรัฐบาล เพราะนั่นหมายถึงเรามีอิสระในการแสดงความคิดเห็น
สำหรับ....ที่จอดรถที่อยู่ไกลสุดของลานจอดรถ เพราะนั่นหมายถึงฉันฉันสามารถเดินได้ และฉันมีรถ
ของขวัญอันล้ำค่าเหล่านี้ไม่ต้องรอมอบให้กันในช่วงเทศกาล เราสามารถมอบให้ผู้อื่นได้ตลอดปี และเมื่อเรามอบของขวัญนี้แก่ผู้ให้แล้ว ผลที่ได้รับมีคุณค่ามากมายมหาศาลทั้ง ๆ ที่มันเป็นของขวัญที่ไม่ต้องลงทุนสักแดงเดียว เราลองมาดูรายละเอียดของกิฟต์เซ็ตชุดนี้กันดีกว่า
ของขวัญจากการฟัง
จงตั้งใจฟังผู้อื่นให้มากอย่าขัดจังหวะการพูด หรือขัดคอคนอื่นพูดให้น้อย ฟังให้มาก
ของขวัญจากภาษากายอย่าอายที่จะแสดงความรักแก่ครอบครัวหรือเพื่อนของคุณ การแสดงออกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บอกให้พวกเขารู้ ถึงความสนิทสนมที่คุณมีให้ จับมือ, โอบไหล่, สวมกอด,หอมแก้ม ฯลฯของขวัญจากความเบิกบานแบ่งปันเสียงหัวเราะและความสนุกสนานให้คนรอบข้าง มีเรื่องสนุกอย่าแอบหัวเราะคนเดียว
ของขวัญจากการเขียน
กระดาษโน้ตที่เขียนด้วยลายมือของคุณเอง เช่น " ฉันรักคุณจังเลย " "ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ " จะสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนอ่านได้ไม่น้อย
ของขวัญจากคำชม
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ไม่ว่าใครก็อยากจะได้รับคำชม เช่น " ผมทรงนี้ดูดีจัง " " กับข้าวอร่อยมากเลยนะ " อย่าชมจนเวอร์แล้วกัน เดี๋ยวกลายเป็นคนไม่จริงใจ
ของขวัญจากความมีน้ำใจความจริงพวกเราทุกคนล้วนมีน้ำใจ สภาพสังคมที่ต้องแก่งแย่งแข่งขันอยู่ตลอด ทำให้น้ำใจของหลายคนเกิดอาการ " หลับใน " การแบ่งปันให้กันจะทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นนะ
ของขวัญจากเวลาส่วนตัว
บางเวลาคนเราก็อาจอยากอยู่เงียบ ๆ ตามลำพัง อย่าลืมเคารพสิทธิผู้อื่นด้วย ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว เมื่อเขาต้องการ
ของขวัญจากการให้กำลังใจคนเรายามที่จิตใจท้อแท้ ก็เหมือนรถน้ำมันหมด ช่วยเติมกำลังใจให้คนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส " ใจเย็น ๆ นะ เดี๋ยวก็มีทางแก้ " " ยากกว่านี้เธอยังทำได้เลย " สักวันรถคุณเองก็อาจจะขาดน้ำมันเหมือนกันก็ได้ของขวัญจากมธุรสวาจา

คำพูดดี ๆ ทำให้เกิดความประทับใจต่อกันได้ดี อย่าลืมคำพื้นฐานอย่าง " ขอบคุณ ""ขอโทษ" คุณอยากฟังคำพูดดี ๆ ... คนอื่นเขาก็เหมือนกันวันนี้คุณได้ให้ของขวัญแก่ใครหรือยัง??

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น